[ไม่ยืนยัน] ทีม Superintelligence ของ Meta เสนอยกเลิกพัฒนาโมเดล Llama 4 Behemoth และให้เลิกทำโมเดลแบบโอเพนซอร์ส
Body
หลังจาก Meta ได้ตั้งแผนกปัญญาประดิษฐ์ใหม่ Superintelligence ที่มี Alexandr Wang อดีตซีอีโอ Scale AI เป็นหัวหน้าทีม ล่าสุดมีรายงานจาก The New York Times เกี่ยวกับการหารือถึงการปรับยุทธศาสตร์โมเดล AI ในอนาคตของ Meta ใหม่ทั้งหมด
รายงานบอกว่า Wang ได้พูดคุยกับทีมงานหลักของ Superintelligence เสนอให้ยกเลิกการพัฒนา Behemoth ที่เป็นโมเดล AI รุ่นบนของ Meta ไปเลย ซึ่งโมเดลนี้อยู่ในชุด Llama 4 ที่เปิดตัวไปเมื่อเดือนเมษายน โดยเป็นโมเดล LLM ขนาดใหญ่ที่สุด และมีข่าวก่อนหน้านี้ว่าเลื่อนเปิดตัวไปเป็นปลายปีเพราะความสามารถยังไม่ดีพอ ทั้งนี้ Behemoth เสร็จสิ้นขั้นตอนการฝึกฝนโมเดลแล้ว
อีกข้อเสนอสำคัญที่หารือกันในทีม Superintelligence คือให้เปลี่ยนแนวทางการพัฒนาโมเดล AI ของ Meta จากโอเพนซอร์สที่ใช้กับ Llama มาเป็นโมเดลระบบปิด โดยมองว่าทำให้บริษัทสามารถแข่งขันกับคู่แข่งอย่าง OpenAI, Google และ Anthropic ได้ดีขึ้น ซึ่งหาก Meta เลือกแนวทางนี้จริงจะเป็นการเปลี่ยนแปลงยุทธศาสตร์ครั้งใหญ่ และอาจต้องดูท่าทีของ Yann LeCun ผู้บริหารส่วน AI ของ Meta อีกคนที่มีบทบาทสูง ซึ่งสนับสนุนการทำโมเดลแบบโอเพนซอร์สมาโดยตลอด
การตัดสินใจนี้ยังไม่มี Mark Zuckerberg เข้ามาร่วมหารือ จึงอาจอยู่ที่เขาว่าจะเห็นด้วยกับข้อเสนอทีมงาน Superintelligence หรือไม่ ทั้งนี้ตัวแทนของ Meta ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นต่อรายงานดังกล่าว
ที่มา: The New York Times
arjin Tue, 15/07/2025 - 07:01
Continue reading...
Body
หลังจาก Meta ได้ตั้งแผนกปัญญาประดิษฐ์ใหม่ Superintelligence ที่มี Alexandr Wang อดีตซีอีโอ Scale AI เป็นหัวหน้าทีม ล่าสุดมีรายงานจาก The New York Times เกี่ยวกับการหารือถึงการปรับยุทธศาสตร์โมเดล AI ในอนาคตของ Meta ใหม่ทั้งหมด
รายงานบอกว่า Wang ได้พูดคุยกับทีมงานหลักของ Superintelligence เสนอให้ยกเลิกการพัฒนา Behemoth ที่เป็นโมเดล AI รุ่นบนของ Meta ไปเลย ซึ่งโมเดลนี้อยู่ในชุด Llama 4 ที่เปิดตัวไปเมื่อเดือนเมษายน โดยเป็นโมเดล LLM ขนาดใหญ่ที่สุด และมีข่าวก่อนหน้านี้ว่าเลื่อนเปิดตัวไปเป็นปลายปีเพราะความสามารถยังไม่ดีพอ ทั้งนี้ Behemoth เสร็จสิ้นขั้นตอนการฝึกฝนโมเดลแล้ว
อีกข้อเสนอสำคัญที่หารือกันในทีม Superintelligence คือให้เปลี่ยนแนวทางการพัฒนาโมเดล AI ของ Meta จากโอเพนซอร์สที่ใช้กับ Llama มาเป็นโมเดลระบบปิด โดยมองว่าทำให้บริษัทสามารถแข่งขันกับคู่แข่งอย่าง OpenAI, Google และ Anthropic ได้ดีขึ้น ซึ่งหาก Meta เลือกแนวทางนี้จริงจะเป็นการเปลี่ยนแปลงยุทธศาสตร์ครั้งใหญ่ และอาจต้องดูท่าทีของ Yann LeCun ผู้บริหารส่วน AI ของ Meta อีกคนที่มีบทบาทสูง ซึ่งสนับสนุนการทำโมเดลแบบโอเพนซอร์สมาโดยตลอด
การตัดสินใจนี้ยังไม่มี Mark Zuckerberg เข้ามาร่วมหารือ จึงอาจอยู่ที่เขาว่าจะเห็นด้วยกับข้อเสนอทีมงาน Superintelligence หรือไม่ ทั้งนี้ตัวแทนของ Meta ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นต่อรายงานดังกล่าว
ที่มา: The New York Times
arjin Tue, 15/07/2025 - 07:01
Continue reading...