ไมโครซอฟท์เปิดตัวซีพียู Cobalt 200 ประสิทธิภาพดีขึ้นจากรุ่นแรก 50%, ออกแบบมาเพื่อ Azure
Body
ไมโครซอฟท์เปิดตัวซีพียูสถาปัตยกรรม Arm ออกแบบเอง Azure Cobalt 200 นับเป็นซีพียูตระกูล Cobalt รุ่นที่สอง ต่อจาก Cobalt 100 ที่เปิดตัวในปี 2023
Cobalt 200 มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น 50% เทียบกับ Cobalt 100 โดยยังคงความเข้ากันได้ย้อนหลัง ไมโครซอฟท์บอกว่า Cobalt 200 ถูกออกแบบมาเพื่องานที่รันบน Azure โดยเฉพาะ รีดประสิทธิภาพออกมาให้ได้สูงที่สุด
ที่ผ่านมาไมโครซอฟท์พบว่าเบนช์มาร์ควัดประสิทธิภาพซีพียูยุคก่อนหน้านี้ ไม่ได้สะท้อนรูปแบบงานบนคลาวด์มากนัก บริษัทจึงพัฒนาเบนช์มาร์คใหม่ขึ้นมา 140 ตัวเพื่อใช้ภายใน แล้วออกแบบ Cobalt 200 ให้เอาชนะเบนช์มาร์คเหล่านี้ให้ได้ ด้วยเทคนิคการใช้ AI เข้าช่วยหาแนวทางการออกแบบที่ใช้พลังงานคุ้มค่าที่สุด (ใช้ AI ช่วยวางแผน ได้มาทั้งหมด 350,000 รูปแบบ คัดเลือกเหลืออันเดียวที่ดีที่สุด จึงสามารถรีดประสิทธิภาพได้ดีขึ้น 50%)
ตัว Cobalt 200 ต้องเรียกว่าเป็นระบบชิป (SoC) โดยเบื้องหลังของมันอิงมาจากพิมพ์เขียว Arm Neoverse Compute Subsystems V3 (CSS V3) ชิป SoC หนึ่งตัวมี 132 คอร์, แต่ละคอร์มีแคช L2 ขนาด 3MB และแคช L3 รวม 192MB, ผลิตด้วยกระบวนการ TSMC 3nm
ของใหม่ที่น่าสนใจคือระบบจ่ายพลังงาน Dynamic Voltage and Frequency Scaling (DVFS) แยกระดับพลังงานและประสิทธิภาพได้ตามแต่ละคอร์ ลดการสิ้นเปลืองพลังงานลง, ออกแบบตัวควบคุมหน่วยความจำ (memory controller) เองเพื่อให้เข้ารหัสหน่วยความจำเป็นดีฟอลต์ และไม่สิ้นเปลืองพลังประมวลผล, รองรับ Arm Confidential Compute Architecture (CCA) แยกส่วนแรมของ VM แต่ละตัวที่ระดับฮาร์ดแวร์ไม่ให้มายุ่งกันได้ (hardware-based isolation)
ไมโครซอฟท์บอกว่า 30% ของงานบนคลาวด์คือการบีบอัดข้อมูลและการเข้ารหัสข้อมูล (compression, decompression, encryption) ทำให้ Cobalt 200 ออกแบบมาเพื่อสิ่งนี้ ตัวชิป SoC จึงเพิ่มตัวเร่งการบีบอัดข้อมูลและการเข้ารหัสข้อมูลแยกมาให้ต่างหาก เพื่อไม่ให้สิ้นเปลืองกำลังของซีพียูหลัก
ตอนนี้ Cobalt 200 เริ่มใช้งานจริงในศูนย์ข้อมูลของไมโครซอฟท์แล้ว และจะเปิดให้ลูกค้าเช่าใช้งานในปีหน้า 2026
ที่มา - Microsoft
mk Thu, 20/11/2025 - 08:50
Continue reading...
Body
ไมโครซอฟท์เปิดตัวซีพียูสถาปัตยกรรม Arm ออกแบบเอง Azure Cobalt 200 นับเป็นซีพียูตระกูล Cobalt รุ่นที่สอง ต่อจาก Cobalt 100 ที่เปิดตัวในปี 2023
Cobalt 200 มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น 50% เทียบกับ Cobalt 100 โดยยังคงความเข้ากันได้ย้อนหลัง ไมโครซอฟท์บอกว่า Cobalt 200 ถูกออกแบบมาเพื่องานที่รันบน Azure โดยเฉพาะ รีดประสิทธิภาพออกมาให้ได้สูงที่สุด
ที่ผ่านมาไมโครซอฟท์พบว่าเบนช์มาร์ควัดประสิทธิภาพซีพียูยุคก่อนหน้านี้ ไม่ได้สะท้อนรูปแบบงานบนคลาวด์มากนัก บริษัทจึงพัฒนาเบนช์มาร์คใหม่ขึ้นมา 140 ตัวเพื่อใช้ภายใน แล้วออกแบบ Cobalt 200 ให้เอาชนะเบนช์มาร์คเหล่านี้ให้ได้ ด้วยเทคนิคการใช้ AI เข้าช่วยหาแนวทางการออกแบบที่ใช้พลังงานคุ้มค่าที่สุด (ใช้ AI ช่วยวางแผน ได้มาทั้งหมด 350,000 รูปแบบ คัดเลือกเหลืออันเดียวที่ดีที่สุด จึงสามารถรีดประสิทธิภาพได้ดีขึ้น 50%)
ตัว Cobalt 200 ต้องเรียกว่าเป็นระบบชิป (SoC) โดยเบื้องหลังของมันอิงมาจากพิมพ์เขียว Arm Neoverse Compute Subsystems V3 (CSS V3) ชิป SoC หนึ่งตัวมี 132 คอร์, แต่ละคอร์มีแคช L2 ขนาด 3MB และแคช L3 รวม 192MB, ผลิตด้วยกระบวนการ TSMC 3nm
ของใหม่ที่น่าสนใจคือระบบจ่ายพลังงาน Dynamic Voltage and Frequency Scaling (DVFS) แยกระดับพลังงานและประสิทธิภาพได้ตามแต่ละคอร์ ลดการสิ้นเปลืองพลังงานลง, ออกแบบตัวควบคุมหน่วยความจำ (memory controller) เองเพื่อให้เข้ารหัสหน่วยความจำเป็นดีฟอลต์ และไม่สิ้นเปลืองพลังประมวลผล, รองรับ Arm Confidential Compute Architecture (CCA) แยกส่วนแรมของ VM แต่ละตัวที่ระดับฮาร์ดแวร์ไม่ให้มายุ่งกันได้ (hardware-based isolation)
ไมโครซอฟท์บอกว่า 30% ของงานบนคลาวด์คือการบีบอัดข้อมูลและการเข้ารหัสข้อมูล (compression, decompression, encryption) ทำให้ Cobalt 200 ออกแบบมาเพื่อสิ่งนี้ ตัวชิป SoC จึงเพิ่มตัวเร่งการบีบอัดข้อมูลและการเข้ารหัสข้อมูลแยกมาให้ต่างหาก เพื่อไม่ให้สิ้นเปลืองกำลังของซีพียูหลัก
ตอนนี้ Cobalt 200 เริ่มใช้งานจริงในศูนย์ข้อมูลของไมโครซอฟท์แล้ว และจะเปิดให้ลูกค้าเช่าใช้งานในปีหน้า 2026
ที่มา - Microsoft
mk Thu, 20/11/2025 - 08:50
Continue reading...