กรุณาปิด โปรแกรมบล๊อกโฆษณา เพราะเราอยู่ได้ด้วยโฆษณาที่ท่านเห็น
Please close the adblock program. Because we can live with the ads you see


News

news พลังเงียบของ LinkedIn กับความท้าทายที่เริ่มชัดเจน: ผู้ใช้มีส่วนร่วมน้อยลง ภาพลักษณ์เดิมที่หายไป และประเด็นความเป็นส่วนตัวของข้อมูล

News 

Active member

Staff member
Moderator
Distributor
พลังเงียบของ LinkedIn กับความท้าทายที่เริ่มชัดเจน: ผู้ใช้มีส่วนร่วมน้อยลง ภาพลักษณ์เดิมที่หายไป และประเด็นความเป็นส่วนตัวของข้อมูล
Body

จากที่เคยถูกมองว่าเป็นแค่เว็บฝากเรซูเม่ วันนี้ LinkedIn กลายเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่มีมูลค่ามากที่สุดของ Microsoft อย่างเงียบ ๆ หลังถูกซื้อกิจการด้วยมูลค่า 26,000 ล้านดอลลาร์ฯ แถมยังกลายเป็นแหล่งข้อมูลสำหรับการพัฒนา AI อันล้ำค่า

แต่ ... เบื้องหลังความสำเร็จนี้ LinkedIn กำลังเจอกับโจทย์ใหม่ ๆ ที่ซับซ้อน ทั้งเรื่องการมีส่วนร่วมของผู้ใช้ที่ลดลง ภาพลักษณ์ของแพลตฟอร์มที่หายไป และประเด็นความเป็นส่วนตัวของข้อมูลผู้ใช้

เห็นเงียบ ๆ รายได้ฟาดเรียบ

ธุรกิจของ LinkedIn เติบโตแบบก้าวกระโดด รายได้ต่อปีเพิ่มจาก 3,000 ล้านดอลลาร์ฯ ในปี 2016 เป็นมากกว่า 17,000 ล้านดอลลาร์ฯ ในปี 2025 ซึ่งไม่ได้มาจากโฆษณาอย่างเดียว แต่รวมถึงบริการจัดหางาน โฆษณาแบบ B2B และรายได้จากผู้ใช้งานพรีเมียมที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

โดยในปีที่แล้ว รายได้จากสมาชิกแบบพรีเมียมทะลุ 2,000 ล้านดอลลาร์ฯ เป็นครั้งแรก สะท้อนว่าผู้ใช้งานยินดีจ่ายเพื่อสิ่งที่ช่วยยกระดับอาชีพ ไม่ว่าจะเป็น InMail ข้อมูลเชิงลึกของโปรไฟล์ หรือเครื่องมือพัฒนาทักษะ ทำให้ LinkedIn ไม่ต้องพึ่งแค่รายได้จากโฆษณาเหมือนแพลตฟอร์มโซเชียลอื่น ๆ

นอกจากนี้ LinkedIn ยังกลายเป็นแหล่งข้อมูลทองคำสำหรับการพัฒนา AI ของ Microsoft ด้วยฐานผู้ใช้งานกว่า 1.1 พันล้านคน ซึ่งมีทั้งข้อมูลการค้นหางาน เส้นทางอาชีพ การส่งข้อความ และการเรียนรู้ทักษะต่าง ๆ บนแพลตฟอร์ม ที่ถูกนำมาใช้ฝึกโมเดล AI

ข้อมูลเหล่านี้เป็นเบื้องหลังที่ทำให้ Microsoft Copilot ช่วยเขียนเรซูเม่ สร้างคำบรรยายงาน และช่วยทีม HR ทำงานอัตโนมัติ ที่สำคัญ ข้อมูลที่ได้มามีโครงสร้างดี และเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมการทำงานจริง ต่างจากข้อมูลจากแพลตฟอร์มโซเชียลอื่น ๆ ทำให้ Microsoft ได้เปรียบตรงนี้อย่างมาก

คนใช้งานเยอะ แต่ไม่ติดงอมแงม

ถึงจะมีผู้ใช้งานเยอะมาก แต่ LinkedIn กลับมีอัตราการมีส่วนร่วมน้อยมาก โดยเฉลี่ยผู้ใช้ Android ใช้เวลาอยู่บนแพลตฟอร์มเพียงเดือนละ 48 นาทีเท่านั้น เทียบไม่ได้เลยกับ TikTok ที่คนใช้กันกว่าเดือนละ 35 ชั่วโมง

LinkedIn พยายามแก้ปัญหานี้ด้วยการเพิ่มฟีเจอร์ เช่น เกมปริศนา แสดงโพสต์จากนอกเครือข่าย และปรับอัลกอริทึมดันโพสต์บางประเภทมากขึ้น ตามเป้าหมายให้คนอยากเข้ามาใช้บ่อยขึ้น และอยู่นานขึ้น

ซึ่งเมื่อกระตุ้นให้คนโพสต์มากขึ้น ก็เกิดคำถามว่า LinkedIn กำลังจะกลายเป็นอะไร? ตอนนี้มีทั้งโพสต์ให้คำแนะนำอาชีพ เรื่องเล่าส่วนตัว ไปจนถึงรีวิวฟาสต์ฟู้ดโดยผู้บริหารบริษัทใหญ่ ๆ ถึงแม้จะดึงความสนใจได้ แต่ก็ทำให้บางคนเริ่มรู้สึกว่า LinkedIn เริ่มจะเหมือน Facebook เข้าไปทุกที

นอกจากนี้ การที่ LinkedIn เข้ามามีบทบาทใน AI ยังทำให้เกิดคำถามใหญ่เรื่องความเป็นส่วนตัว เมื่อต้นปีนี้มีรายงานว่า ข้อมูลของผู้ใช้ ซึ่งรวมถึงข้อความส่วนตัวของสมาชิกแบบพรีเมียม ถูกนำไปฝึก AI โดยไม่มีการแจ้งให้ผู้ใช้รับรู้

เพื่อแก้ปัญหา และรักษาแก่นเดิมของแพลตฟอร์ม LinkedIn ได้เริ่มปรับอัลกอริทึมใหม่ ให้เน้นโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับงาน และลดโพสต์ที่ดูไม่มืออาชีพ รวมทั้งให้ผู้ใช้เลือกไม่อนุญาตให้ข้อมูลถูกนำไปใช้ฝึก AI ได้ แต่ก็ยังเป็นเรื่องยากที่แพลตฟอร์มจะหาจุดสมดุลระหว่าง “น่าสนใจ” กับ “น่าเชื่อถือ”

เส้นทางต่อจากนี้

LinkedIn กำลังเดินอยู่บนเส้นทางที่เต็มไปด้วยโอกาส และแรงกดดันในเวลาเดียวกัน รายได้ยังเติบโตต่อเนื่อง บทบาทในกลยุทธ์ AI ของ Microsoft ก็ชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ แต่ก็ยังมีความท้าทายมากขึ้นเรื่อย ๆ

แพลตฟอร์มต้องหาทางกระตุ้นให้ผู้ใช้มีส่วนร่วมมากขึ้น โดยไม่สูญเสียจุดแข็งเรื่องความเป็นมืออาชีพ และต้องใช้ AI อย่างมีความรับผิดชอบ ไม่เพียงเพื่อยกระดับประสบการณ์ของผู้ใช้ แต่ยังต้องนึกถึงความโปร่งใส และความเชื่อมั่นในระยะยาวด้วย

นอกจากนี้ LinkedIn ต้องรักษาอัตลักษณ์ของตัวเองให้ชัดเจน ท่ามกลางกระแสโซเชียลที่เน้นความบันเทิง และเนื้อหาฉาบฉวย ถ้าแพลตฟอร์มสามารถตอบโจทย์ทั้งหมดนี้ได้ LinkedIn จะไม่ได้เป็นแค่แพลตฟอร์มหางาน หรือพื้นที่โพสต์ความเห็นทางธุรกิจอีกต่อไป แต่จะกลายเป็นโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลสำหรับโลกของการทำงานในยุคที่ขับเคลื่อนด้วย AI

ที่มา: The Economist, TechCrunch, Sprout Social, Cognism, Forbes, และ The Times

boompw Thu, 05/15/2025 - 18:34

Continue reading...
 



กรุณาปิด โปรแกรมบล๊อกโฆษณา เพราะเราอยู่ได้ด้วยโฆษณาที่ท่านเห็น
Please close the adblock program. Because we can live with the ads you see
Back
Top Bottom