รีวิว Nintendo Museum พิพิธภัณฑ์รวมทุกอย่างของ Nintendo ในเมืองเกียวโต
Body
พิพิธภัณฑ์นินเทนโดหรือ Nintendo Museum ได้เปิดให้บริการที่เมืองอุจิ ในจังหวัดเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น มาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2024 เนื่องจากมีโอกาสได้ไปเยี่ยมชม ซึ่งช่วงที่ไปทางพิพิธภัณฑ์ก็นำ Nintendo Switch 2 มาจัดแสดงให้ชมด้วย จึงนำภาพรวมของพิพิธภัณฑ์มาเล่าสู่กันฟังสำหรับคนที่สนใจครับ โดยจะไม่ลงรายละเอียดทั้งหมดเพื่อให้ยังสนุกสำหรับการเดินทางไปชม
การเข้าชม Nintendo Museum ต้องลงทะเบียนซื้อบัตรล่วงหน้าเท่านั้น ซึ่งทางนินเทนโดก็บอกแนวทางว่าเพื่อรองรับความต้องการสูงในตอนนี้ การเข้าชมพิพิธภัณฑ์จึงเป็นระบบลงทะเบียนสุ่ม แต่จริง ๆ ก็มีวิธีสำหรับการซื้อบัตรแบบ First Come เช่นกัน รายละเอียดส่วนนี้จะพูดในช่วงท้าย
Nintendo Museum เปิดให้เข้าตามรอบเวลาของบัตรที่ลงทะเบียนไว้เท่านั้น อันนี้ลองไปก่อนเวลาเขาก็ไม่ให้เขา ฉะนั้นไม่ต้องลุ้น (ฮา) การเข้ามีระบบตรวจสอบอาวุธและสิ่งอันตรายที่เข้มข้นมาก ใช้เครื่องสแกนแบบสนามบินเลย ผู้เข้าชมทุกคนจะได้รับบัตรแข็งเข้าพิพิธภัณฑ์ ซึ่งสามารถออกแบบพิมพ์ลาย Mii ก่อนได้ หรือได้เป็นรูป Mario บัตรนี้มีลูกเล่นเพราะนอกจากใช้แตะเข้าออกแล้ว ยังใช้เป็นคูปองทำกิจกรรมส่วน Interactive ด้วย
พื้นที่ของ Nintendo Museum มีอยู่ 3 อาคาร มีส่วนกิจกรรมได้แก่ ส่วนนิทรรศการจัดแสดงเนื้อหา, พื้นที่กิจกรรม Interactive, ร้านค้าของที่ระลึก, คาเฟ่ และห้องเวิร์กช็อป ก่อนเข้ามีจุดถ่ายรูปอยู่พอประมาณ มีสตาฟช่วยถ่ายรูปให้ บางอย่างก็ซ่อนตามจุดต้องช่างสังเกตหน่อย
คณะคิโนะปิโอะที่มาต้อนรับ
เริ่มที่ พื้นที่นิทรรศการ ซึ่งอยู่ที่ชั้น 2 ของอาคาร 1 จะเป็นจุดแรกที่มาถึง โซนนี้ทั้งหมดไม่อนุญาตให้ถ่ายรูป ยกเว้นของใหม่ที่มาติดตั้งคือ Nintendo Switch 2 ในตู้กระจก ที่ให้ถ่ายรูปได้ ซึ่งนำเสนอการใช้งานในฟอร์แมตต่าง ๆ เนื่องจากไม่ให้จับเครื่องจึงบอกสิ่งที่เห็นได้เพียง จอคมชัดขึ้นมาก และใหญ่ขึ้นกว่ารุ่นปัจจุบัน
พื้นที่นิทรรศการเป็นวงกลม ฉะนั้นจะเริ่มดูตรงไหนก็วนไปได้ (ภาพประกอบอื่นทั้งหมดมาจาก Nintendo Direct) โดยเป็นการนำสิ่งของต่าง ๆ ในประวัติศาสตร์นินเทนโดมาจัดแสดงเรียงร้อยตามเวลา ตั้งแต่ตอนเป็นบริษัทผลิตไพ่ Hanafuda ในปี 1889, ของเล่นหลายรูปแบบ, บอร์ดเกม, ตู้เกม, เกมกด ซึ่งทำให้เห็นว่านินเทนโดที่อยู่กับการ "เล่น" มาตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท
ภาพจาก Nintendo Direct
ส่วนที่เป็นเกมคอนโซล การจัดแสดงแบ่งเป็นจุดตามคอนโซลแต่ละรุ่น ซึ่งมีเครื่อง ด้านในเครื่อง ตลับเกมทั้งของนินเทนโดและพาร์ตเนอร์ มานำเสนอ โดยแต่ละเครื่องอธิบายสั้น ๆ ถึง ไอเดียตั้งต้นในการพัฒนา และการนำเสนอจุดขายของเครื่องแต่ละรุ่น เริ่มตั้งแต่ Famicom (NES) มาจนถึง Switch ซึ่งในไทม์ไลน์นี้ก็มี Virtual Boy เครื่องเล่นเกม 3D ที่ไม่ประสบความสำเร็จด้วย เนื้อหาส่วนอื่นยังมีทั้ง นอกจากนี้ยังมีเนื้อหาเกร็ดเล็กน้อย เช่น พัฒนาการคาแรกเตอร์-ไอเท็ม ตามแต่ละยุคสมัย ภาพบรรยากาศโรงงานประกอบเครื่องเกมในอดีต และอีกมาก
รวมเกมในอดีต (ภาพ Nintendo Direct)
รวมไอเดียในเกมแต่ละยุคสมัย (ส่วนนี้อยู่โซน Interactive)
ส่วนถัดมาคือ กิจกรรม Interactive ซึ่งอยู่ชั้นล่างของนิทรรศการจัดแสดง ทางพิพิธภัณฑ์จะแนะนำผู้เข้าชมให้ลงมาเล่นเกมส่วนนี้ก่อนค่อยกลับขึ้นไปดู เพราะการเข้าชมไม่ได้จำกัดเวลา ทำให้ยิ่งเวลาผ่านไปคนจะอยู่ในพิพิธภัณฑ์มากขึ้น คิวรอเล่นเกมจะยาวขึ้นอีก
เกมไพ่ Shigureden (ภาพ Nintendo Direct)
เกมกด Game&Watch
การเล่นเกมในโซน Interactive นี้มีโควต้าการเล่นสำหรับแต่ละคน ทุกคนจะได้เหรียญ Virtual คนละ 10 เหรียญ โดยใช้บัตรแข็งในการยืนยันเล่นเกม แต่ละเกม-กิจกรรม ใช้เหรียญไม่เท่ากัน และไม่สามารถซื้อเพิ่มได้ ฉะนั้นแต่ละคนจะไม่สามารถเล่นได้ทุกกิจกรรม ก็ต้องบริหารความสนใจหรือหาโอกาสมาซ้ำเอง!
เล่นเกมคลาสสิกได้ 7 นาที
ทุกกิจกรรมเป็นการเล่นเกมแบบไม่มีรางวัล เน้นทำแต้มหรือชนะในรอบการแข่งขันของกลุ่มนั้น ในตอนนี้มีทั้งหมด 8 เกมคือ เกมยิงปืน (4 Coins), เกมไพ่ Shigureden (2 Coins), Love Tester (2 Coins), Ultra Machine (2 Coins), เล่นเกมจอยยักษ์ (2 Coins), เล่นเกมคลาสสิก (1 Coin), Ultra Hand (1 Coin) และเล่นเกมกด Game&Watch (1 Coin) ซึ่งเกมแถวยาวที่สุดก็คือเกมยิงปืน ที่เล่นพร้อมกันสูงสุด 13 คน ปืนก็เลือกได้ทั้งปืนสั้น Zapper และปืนทรงสไนเปอร์ Scope
เล่นเกมด้วยจอยขนาดยักษ์ ที่ต้องช่วยกันเล่น 2 คน
เกมยิงปืน
หมดส่วนนี้ตอนเดินออกจากอาคารก็เป็นกิจกรรมช้อปปิ้ง ซึ่ง Nintendo Museum เรียกชื่อร้านขายของที่ระลึกว่า Bonus Stage สินค้าส่วนใหญ่เป็นธีมคอนโซลแต่ละรุ่น กับสินค้าที่แปะป้าย Museum ส่วนพวกคาแรกเตอร์มีไม่เยอะมาก เข้าใจว่าเพราะตัวยอดนิยมอย่าง Mario หรือ Pokemon มีร้าน Nintendo Store และร้านของเล่นที่ขายกันเยอะอยู่แล้ว สินค้าทุกอย่างจำกัดการซื้ออย่างละไม่เกิน 2 ชิ้น ตอนจ่ายเงินต้องยืนยันด้วยบัตรแข็งด้วย ซึ่งที่ดูลำบากหน่อยคือสินค้าบางตัวเป็นกล่องสุ่ม 6-9 แบบ ก็ให้ซื้อได้แค่ 2 เช่นกัน
หมอนข้างจอยยักษ์ ราคา 11,000 เยน
พิพิธภัณฑ์มีกิจกรรม Workshop และ Play Room ให้ได้ออกแบบไพ่ Hanafuda ของตนเอง หรือทดลองเล่นไพ่นี้ โดยต้องลงทะเบียนจองเวลาด้วย ใช้เวลารอบละ 30 นาที มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม 500 เยน การจองทำได้ที่ทางเข้า ส่วนห้องทำกิจกรรมอยู่ที่อาคาร 3
จุดสุดท้ายของ Nintendo Museum คือคาเฟ่ที่อาคาร 3 ขายเมนูหลักคือ Hatena Burger เป็นแฮมเบอเกอร์ที่สามารถออกแบบรายละเอียดได้เอง และของหวาน ซึ่งทั้งหมดไม่มีคาแรกเตอร์ของนินเทนโด ก็เลยไม่ได้ลองครับ
Nintendo Museum เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เน้นนำเสนอสิ่งของที่อยู่ในแต่ละช่วงเวลาของนินเทนโด ทั้งหมดนำเสนอในรูปแบบภาพใหญ่ อาจไม่มีเกร็ดเล็กน้อย หรือมุมประวัติศาสตร์เรื่องเล่าของบริษัทมากนัก อย่างไรก็ตามพิพิธภัณฑ์นี้ก็ยังน่าสนใจสำหรับแฟน ๆ นินเทนโดที่จะไปเยือนสักครั้งนั่นเอง
Continue reading...
Body
พิพิธภัณฑ์นินเทนโดหรือ Nintendo Museum ได้เปิดให้บริการที่เมืองอุจิ ในจังหวัดเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น มาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2024 เนื่องจากมีโอกาสได้ไปเยี่ยมชม ซึ่งช่วงที่ไปทางพิพิธภัณฑ์ก็นำ Nintendo Switch 2 มาจัดแสดงให้ชมด้วย จึงนำภาพรวมของพิพิธภัณฑ์มาเล่าสู่กันฟังสำหรับคนที่สนใจครับ โดยจะไม่ลงรายละเอียดทั้งหมดเพื่อให้ยังสนุกสำหรับการเดินทางไปชม
การเข้าชม Nintendo Museum ต้องลงทะเบียนซื้อบัตรล่วงหน้าเท่านั้น ซึ่งทางนินเทนโดก็บอกแนวทางว่าเพื่อรองรับความต้องการสูงในตอนนี้ การเข้าชมพิพิธภัณฑ์จึงเป็นระบบลงทะเบียนสุ่ม แต่จริง ๆ ก็มีวิธีสำหรับการซื้อบัตรแบบ First Come เช่นกัน รายละเอียดส่วนนี้จะพูดในช่วงท้าย
Nintendo Museum เปิดให้เข้าตามรอบเวลาของบัตรที่ลงทะเบียนไว้เท่านั้น อันนี้ลองไปก่อนเวลาเขาก็ไม่ให้เขา ฉะนั้นไม่ต้องลุ้น (ฮา) การเข้ามีระบบตรวจสอบอาวุธและสิ่งอันตรายที่เข้มข้นมาก ใช้เครื่องสแกนแบบสนามบินเลย ผู้เข้าชมทุกคนจะได้รับบัตรแข็งเข้าพิพิธภัณฑ์ ซึ่งสามารถออกแบบพิมพ์ลาย Mii ก่อนได้ หรือได้เป็นรูป Mario บัตรนี้มีลูกเล่นเพราะนอกจากใช้แตะเข้าออกแล้ว ยังใช้เป็นคูปองทำกิจกรรมส่วน Interactive ด้วย
พื้นที่ของ Nintendo Museum มีอยู่ 3 อาคาร มีส่วนกิจกรรมได้แก่ ส่วนนิทรรศการจัดแสดงเนื้อหา, พื้นที่กิจกรรม Interactive, ร้านค้าของที่ระลึก, คาเฟ่ และห้องเวิร์กช็อป ก่อนเข้ามีจุดถ่ายรูปอยู่พอประมาณ มีสตาฟช่วยถ่ายรูปให้ บางอย่างก็ซ่อนตามจุดต้องช่างสังเกตหน่อย
คณะคิโนะปิโอะที่มาต้อนรับ
เริ่มที่ พื้นที่นิทรรศการ ซึ่งอยู่ที่ชั้น 2 ของอาคาร 1 จะเป็นจุดแรกที่มาถึง โซนนี้ทั้งหมดไม่อนุญาตให้ถ่ายรูป ยกเว้นของใหม่ที่มาติดตั้งคือ Nintendo Switch 2 ในตู้กระจก ที่ให้ถ่ายรูปได้ ซึ่งนำเสนอการใช้งานในฟอร์แมตต่าง ๆ เนื่องจากไม่ให้จับเครื่องจึงบอกสิ่งที่เห็นได้เพียง จอคมชัดขึ้นมาก และใหญ่ขึ้นกว่ารุ่นปัจจุบัน
พื้นที่นิทรรศการเป็นวงกลม ฉะนั้นจะเริ่มดูตรงไหนก็วนไปได้ (ภาพประกอบอื่นทั้งหมดมาจาก Nintendo Direct) โดยเป็นการนำสิ่งของต่าง ๆ ในประวัติศาสตร์นินเทนโดมาจัดแสดงเรียงร้อยตามเวลา ตั้งแต่ตอนเป็นบริษัทผลิตไพ่ Hanafuda ในปี 1889, ของเล่นหลายรูปแบบ, บอร์ดเกม, ตู้เกม, เกมกด ซึ่งทำให้เห็นว่านินเทนโดที่อยู่กับการ "เล่น" มาตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท
ภาพจาก Nintendo Direct
ส่วนที่เป็นเกมคอนโซล การจัดแสดงแบ่งเป็นจุดตามคอนโซลแต่ละรุ่น ซึ่งมีเครื่อง ด้านในเครื่อง ตลับเกมทั้งของนินเทนโดและพาร์ตเนอร์ มานำเสนอ โดยแต่ละเครื่องอธิบายสั้น ๆ ถึง ไอเดียตั้งต้นในการพัฒนา และการนำเสนอจุดขายของเครื่องแต่ละรุ่น เริ่มตั้งแต่ Famicom (NES) มาจนถึง Switch ซึ่งในไทม์ไลน์นี้ก็มี Virtual Boy เครื่องเล่นเกม 3D ที่ไม่ประสบความสำเร็จด้วย เนื้อหาส่วนอื่นยังมีทั้ง นอกจากนี้ยังมีเนื้อหาเกร็ดเล็กน้อย เช่น พัฒนาการคาแรกเตอร์-ไอเท็ม ตามแต่ละยุคสมัย ภาพบรรยากาศโรงงานประกอบเครื่องเกมในอดีต และอีกมาก
รวมเกมในอดีต (ภาพ Nintendo Direct)
รวมไอเดียในเกมแต่ละยุคสมัย (ส่วนนี้อยู่โซน Interactive)
ส่วนถัดมาคือ กิจกรรม Interactive ซึ่งอยู่ชั้นล่างของนิทรรศการจัดแสดง ทางพิพิธภัณฑ์จะแนะนำผู้เข้าชมให้ลงมาเล่นเกมส่วนนี้ก่อนค่อยกลับขึ้นไปดู เพราะการเข้าชมไม่ได้จำกัดเวลา ทำให้ยิ่งเวลาผ่านไปคนจะอยู่ในพิพิธภัณฑ์มากขึ้น คิวรอเล่นเกมจะยาวขึ้นอีก
เกมไพ่ Shigureden (ภาพ Nintendo Direct)
เกมกด Game&Watch
การเล่นเกมในโซน Interactive นี้มีโควต้าการเล่นสำหรับแต่ละคน ทุกคนจะได้เหรียญ Virtual คนละ 10 เหรียญ โดยใช้บัตรแข็งในการยืนยันเล่นเกม แต่ละเกม-กิจกรรม ใช้เหรียญไม่เท่ากัน และไม่สามารถซื้อเพิ่มได้ ฉะนั้นแต่ละคนจะไม่สามารถเล่นได้ทุกกิจกรรม ก็ต้องบริหารความสนใจหรือหาโอกาสมาซ้ำเอง!
เล่นเกมคลาสสิกได้ 7 นาที
ทุกกิจกรรมเป็นการเล่นเกมแบบไม่มีรางวัล เน้นทำแต้มหรือชนะในรอบการแข่งขันของกลุ่มนั้น ในตอนนี้มีทั้งหมด 8 เกมคือ เกมยิงปืน (4 Coins), เกมไพ่ Shigureden (2 Coins), Love Tester (2 Coins), Ultra Machine (2 Coins), เล่นเกมจอยยักษ์ (2 Coins), เล่นเกมคลาสสิก (1 Coin), Ultra Hand (1 Coin) และเล่นเกมกด Game&Watch (1 Coin) ซึ่งเกมแถวยาวที่สุดก็คือเกมยิงปืน ที่เล่นพร้อมกันสูงสุด 13 คน ปืนก็เลือกได้ทั้งปืนสั้น Zapper และปืนทรงสไนเปอร์ Scope
เล่นเกมด้วยจอยขนาดยักษ์ ที่ต้องช่วยกันเล่น 2 คน
เกมยิงปืน
หมดส่วนนี้ตอนเดินออกจากอาคารก็เป็นกิจกรรมช้อปปิ้ง ซึ่ง Nintendo Museum เรียกชื่อร้านขายของที่ระลึกว่า Bonus Stage สินค้าส่วนใหญ่เป็นธีมคอนโซลแต่ละรุ่น กับสินค้าที่แปะป้าย Museum ส่วนพวกคาแรกเตอร์มีไม่เยอะมาก เข้าใจว่าเพราะตัวยอดนิยมอย่าง Mario หรือ Pokemon มีร้าน Nintendo Store และร้านของเล่นที่ขายกันเยอะอยู่แล้ว สินค้าทุกอย่างจำกัดการซื้ออย่างละไม่เกิน 2 ชิ้น ตอนจ่ายเงินต้องยืนยันด้วยบัตรแข็งด้วย ซึ่งที่ดูลำบากหน่อยคือสินค้าบางตัวเป็นกล่องสุ่ม 6-9 แบบ ก็ให้ซื้อได้แค่ 2 เช่นกัน
หมอนข้างจอยยักษ์ ราคา 11,000 เยน
พิพิธภัณฑ์มีกิจกรรม Workshop และ Play Room ให้ได้ออกแบบไพ่ Hanafuda ของตนเอง หรือทดลองเล่นไพ่นี้ โดยต้องลงทะเบียนจองเวลาด้วย ใช้เวลารอบละ 30 นาที มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม 500 เยน การจองทำได้ที่ทางเข้า ส่วนห้องทำกิจกรรมอยู่ที่อาคาร 3
จุดสุดท้ายของ Nintendo Museum คือคาเฟ่ที่อาคาร 3 ขายเมนูหลักคือ Hatena Burger เป็นแฮมเบอเกอร์ที่สามารถออกแบบรายละเอียดได้เอง และของหวาน ซึ่งทั้งหมดไม่มีคาแรกเตอร์ของนินเทนโด ก็เลยไม่ได้ลองครับ
Nintendo Museum เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เน้นนำเสนอสิ่งของที่อยู่ในแต่ละช่วงเวลาของนินเทนโด ทั้งหมดนำเสนอในรูปแบบภาพใหญ่ อาจไม่มีเกร็ดเล็กน้อย หรือมุมประวัติศาสตร์เรื่องเล่าของบริษัทมากนัก อย่างไรก็ตามพิพิธภัณฑ์นี้ก็ยังน่าสนใจสำหรับแฟน ๆ นินเทนโดที่จะไปเยือนสักครั้งนั่นเอง
การเข้าชม Nintendo Museum
- ต้องเลือกจองวัน-เวลาที่ต้องการผ่านเว็บไซต์ของ Nintendo Museum การล็อกอินต้องมีบัญชี Nintendo ก่อน ถ้ายังไม่มี สมัครได้ฟรี
- ลอตเตอรีสุ่มจะเปิดจองเป็นช่วงหนึ่งเดือน ล่วงหน้า 3 เดือน เช่น ตอนนี้เดือนพฤษภาคม จะเปิดให้ลงทะเบียนสุ่มของเดือนสิงหาคม
- หนึ่งบัญชีเลือกสุ่มได้ 3 สลอตในหนึ่งเดือน โดยต้องระบุวัน-ช่วงเวลา หรือเลือกแบบ Auto คือระบุวันเท่านั้น
- ผลการสุ่มจะแจ้งทางอีเมลในวันที่ 1 ของเดือนถัดไป หากได้ต้องจ่ายเงินภายในเวลาที่กำหนด
- ชื่อตอนลงทะเบียนต้องตรงกับชื่อในพาสปอร์ตตอนเข้าพิพิธภัณฑ์
- Nintendo Museum มีขายบัตรเข้าเพิ่มเติมแบบ First-come, First-served ซึ่งเป็นส่วนที่เหลือจากการสุ่ม วันที่ขายไม่แน่นอน แต่มักเริ่มขายกลางเดือนราววันที่ 11-15 ของเดือนที่แจ้งผล (เช่นสุ่มเดือนพฤษภาคม เพื่อการเข้าสิงหาคม บัตร First-come จะขายกลางเดือนมิถุนายน)
ข้อมูลทั่วไป
- เปิด 10:00-19:00น. หยุดวันอังคาร และช่วงปีใหม่ ถ้าวันอังคารตรงกับวันหยุดตามประเพณี จะเลื่อนมาหยุดวันพุธ
- ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 3,300 เยน เด็กโต (12-17 ปี) 2,200 เยน เด็กเล็ก (6-11 ปี) 1,100 เยน ส่วน 0-5 ปี เข้าฟรี
- การเดินทางด้วยรถไฟ มาที่สถานี Ogura (Kintetsu Railway Kyoto Line) หรือสถานี JR Ogura (JR Nara Line) แล้วเดินต่อประมาณ 5-8 นาที มีป้ายบอกทาง
- การเข้าชมพิพิธภัณฑ์มีข้อกำหนดเพิ่มเติม เช่น ห้ามนำอาหารเข้าไป, น้ำต้องเป็นขวดพลาสติก, รูปแบบการคอสเพลย์ที่ไม่อนุญาต ฯลฯ สามารถดูรายละเอียดทั้งหมดได้ที่เว็บไซต์
Continue reading...