อะไรทำให้ซีอีโอ Intel เป็นเป้าโจมตี เรียกร้องให้ลาออกจากตำแหน่ง
Body
ประเด็นที่ Lip-Bu Tan ซีอีโออินเทล ถูกเรียกร้องจากประธานาธิบดี Donald Trump ให้ลาออกจากตำแหน่ง เนื่องจากความเชื่อมโยงกับบริษัทที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลจีน ซึ่งมองว่าเป็นภัยต่อความมั่นคง Bloomberg รวบรวมข้อมูลเพิ่มเติม ว่าอะไรที่ทำให้วุฒิสมาชิกสหรัฐ มาจนถึง Trump มองเช่นนั้น
เรื่องนี้ต้องย้อนไปมากกว่า 30 ปีที่แล้ว Tan ได้ก่อตั้งบริษัทการลงทุน Walden International โดยลงทุนในบริษัทจำนวนมากกว่า 600 แห่ง วงเงินรวมกว่า 5 พันล้านดอลลาร์ และมีมากกว่า 100 บริษัท ที่อยู่ในประเทศจีน ซึ่งหากย้อนไปเวลานั้นที่ยังไม่มีประเด็นสงครามการค้าเท่าปัจจุบัน เรื่องนี้คงไม่ได้แปลกอะไรนัก
การลงทุนในจีนของ Tan มาจากความสนใจเฉพาะของเขา และการเป็นคนที่เกิดในมาเลเซีย พูดภาษาจีนกลางได้ บริษัทที่เขาเน้นลงทุนคือบริษัทชิปในจีน ซึ่งเวลานั้นไม่เป็นที่สนใจมากนักจากฝั่งอเมริกา เพราะมีขนาดเล็กเมื่อเทียบกับบริษัทใหญ่เวลานั้น
อย่างไรก็ตามในพอร์ตการลงทุนของ Walden มีบริษัทหนึ่งที่ประสบความสำเร็จสูงคือ SMIC ซึ่งปัจจุบันเป็นบริษัทผลิตชิปรายใหญ่ของจีน Tan เองก็มีตำแหน่งเป็นกรรมการบอร์ดตั้งแต่ปี 2003-2018 ต่อมา SMIC ถูกทางการสหรัฐเข้าบัญชีบริษัทที่ถูกแบนมาตั้งแต่ปี 2020 เรื่องนี้จึงเป็นประเด็นแรกที่เขาถูกวุฒิสมาชิก Tom Cotton ตั้งคำถามว่าเขาอาจยังเกี่ยวข้องกับ SMIC อยู่
ก่อนมารับตำแหน่งที่อินเทล Tan เคยเป็นซีอีโอที่ Cadence Design Systems ระหว่างปี 2009-2021 ซึ่งเขามีบทบาทสำคัญในการฟื้นฟูกิจการนี้ แต่เมื่อปี 2025 บริษัทถูกกระทรวงยุติธรรมสหรัฐสั่งปรับเงินกว่า 100 ล้านดอลลาร์ เนื่องจากสาขาของบริษัทในจีนเจตนาปกปิดรายชื่อลูกค้าบริษัท ซึ่งมีหน่วยงานต้องห้ามคือมหาวิทยาลัยด้านการป้องกันของจีนด้วย ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นช่วงที่ Tan เป็นซีอีโอ เรื่องนี้จึงเป็นอีกประเด็นที่วุฒิสมาชิก Cotton ตั้งคำถามเรื่องเครือข่ายของ Tan ในจีน
ปัจจุบัน Walden ได้ขายหุ้นทั้งหมดใน SMIC ไปแล้วตั้งแต่ก่อน Tan รับตำแหน่งซีอีโออินเทล และกองทุนก็เหลือการลงทุนในจีนและฮ่องกงเพียงไม่กี่บริษัทเท่านั้น
ที่มา: Bloomberg
arjin Sat, 09/08/2025 - 15:25
Continue reading...
Body
ประเด็นที่ Lip-Bu Tan ซีอีโออินเทล ถูกเรียกร้องจากประธานาธิบดี Donald Trump ให้ลาออกจากตำแหน่ง เนื่องจากความเชื่อมโยงกับบริษัทที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลจีน ซึ่งมองว่าเป็นภัยต่อความมั่นคง Bloomberg รวบรวมข้อมูลเพิ่มเติม ว่าอะไรที่ทำให้วุฒิสมาชิกสหรัฐ มาจนถึง Trump มองเช่นนั้น
เรื่องนี้ต้องย้อนไปมากกว่า 30 ปีที่แล้ว Tan ได้ก่อตั้งบริษัทการลงทุน Walden International โดยลงทุนในบริษัทจำนวนมากกว่า 600 แห่ง วงเงินรวมกว่า 5 พันล้านดอลลาร์ และมีมากกว่า 100 บริษัท ที่อยู่ในประเทศจีน ซึ่งหากย้อนไปเวลานั้นที่ยังไม่มีประเด็นสงครามการค้าเท่าปัจจุบัน เรื่องนี้คงไม่ได้แปลกอะไรนัก
การลงทุนในจีนของ Tan มาจากความสนใจเฉพาะของเขา และการเป็นคนที่เกิดในมาเลเซีย พูดภาษาจีนกลางได้ บริษัทที่เขาเน้นลงทุนคือบริษัทชิปในจีน ซึ่งเวลานั้นไม่เป็นที่สนใจมากนักจากฝั่งอเมริกา เพราะมีขนาดเล็กเมื่อเทียบกับบริษัทใหญ่เวลานั้น
อย่างไรก็ตามในพอร์ตการลงทุนของ Walden มีบริษัทหนึ่งที่ประสบความสำเร็จสูงคือ SMIC ซึ่งปัจจุบันเป็นบริษัทผลิตชิปรายใหญ่ของจีน Tan เองก็มีตำแหน่งเป็นกรรมการบอร์ดตั้งแต่ปี 2003-2018 ต่อมา SMIC ถูกทางการสหรัฐเข้าบัญชีบริษัทที่ถูกแบนมาตั้งแต่ปี 2020 เรื่องนี้จึงเป็นประเด็นแรกที่เขาถูกวุฒิสมาชิก Tom Cotton ตั้งคำถามว่าเขาอาจยังเกี่ยวข้องกับ SMIC อยู่
ก่อนมารับตำแหน่งที่อินเทล Tan เคยเป็นซีอีโอที่ Cadence Design Systems ระหว่างปี 2009-2021 ซึ่งเขามีบทบาทสำคัญในการฟื้นฟูกิจการนี้ แต่เมื่อปี 2025 บริษัทถูกกระทรวงยุติธรรมสหรัฐสั่งปรับเงินกว่า 100 ล้านดอลลาร์ เนื่องจากสาขาของบริษัทในจีนเจตนาปกปิดรายชื่อลูกค้าบริษัท ซึ่งมีหน่วยงานต้องห้ามคือมหาวิทยาลัยด้านการป้องกันของจีนด้วย ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นช่วงที่ Tan เป็นซีอีโอ เรื่องนี้จึงเป็นอีกประเด็นที่วุฒิสมาชิก Cotton ตั้งคำถามเรื่องเครือข่ายของ Tan ในจีน
ปัจจุบัน Walden ได้ขายหุ้นทั้งหมดใน SMIC ไปแล้วตั้งแต่ก่อน Tan รับตำแหน่งซีอีโออินเทล และกองทุนก็เหลือการลงทุนในจีนและฮ่องกงเพียงไม่กี่บริษัทเท่านั้น
ที่มา: Bloomberg
arjin Sat, 09/08/2025 - 15:25
Continue reading...