Future You ปัญญาประดิษฐ์เพื่อมนุษย์ จาก KBTG ขึ้นทำเนียบไอเดียเปลี่ยนโลกปี 2025 จากนิตยสาร Fast Company
Body
ปัญญาประดิษฐ์ทุกวันนี้มักถูกมองในฐานะเครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานหรือใช้ปัญญาประดิษฐ์แทนที่มนุษย์ แต่ KBTG พลิกมุมมองการใช้ AI ว่า ปัญญาประดิษฐ์สามารถช่วยให้มนุษย์ "เบ่งบาน" (Human Flourish) ด้วยการใช้งานที่เหมาะสม โดยนำเสนอโครงการ Future You ที่ให้ผู้ใช้สามารถปรึกษาปัญหาและความกังวลของชีวิตกับตัวเองในวัย 60 ปี โดยล่าสุดโครงการนี้ได้ขึ้นทำเนียบ World Changing Ideas 2025 จากนิตยสาร Fast Company สื่อชั้นนำระดับโลก
กระทิง เรืองโรจน์ พูนผล Group Chairman KBTG เล่าถึงความร่วมมือระหว่าง KBTG และ MIT Media Lab มีเป้าหมายร่วมกันที่จะพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ที่ไม่ได้แค่เพิ่มผลผลิต แต่ทำให้มนุษย์เบ่งบาน (human flourish) โดยก่อนหน้าที่ Fast Company จะนำ Future You ขึ้นสู่ทำเนียบ World Changing Ideas 2025 ครั้งนี้ ก็มีสื่อและสถาบันต่างๆ ให้ความสนใจโครงการนี้มาก่อนแล้ว ส่วนสำคัญคือ ต้องการอาศัยจิตวิญญาณแบบเอเชียที่ใส่ใจต่อผู้คน และปัญญาประดิษฐ์ที่มีประโยชน์จะต้องสนับสนุนมนุษย์ ไม่ใช่มาแทนที่
ปัญญาประดิษฐ์ Future You เริ่มพัฒนามาตั้งแต่ปี 2021 และเปิดตัวในงาน MIT Media Lab Southeast Asian Forum ตั้งแต่ก่อน ChatGPT เสียอีก โดยแชตบอตอาศัยการเก็บข้อมูลเบื้องต้นจากผู้ใช้ และอาศัยการ Hallucinate ของปัญญาประดิษฐ์อย่างมีการควบคุม (Guided Hallucination) ภายในของ Future You เป็นโมเดลปัญญาประดิษฐ์หลายตัวประกอบเข้าด้วยกันเพื่อให้มีพฤติกรรมตรงตามที่ทีมงานพัฒนาต้องการ ให้สร้างความทรงจำจำลองที่สมมติเรื่องราวของผู้ใช้เองในอนาคตที่อายุถึง 60 ปี ซึ่งมักเป็นจุดเปลี่ยนชีวิตของคนจำนวนมากซึ่งมักเกษียณที่ช่วงเวลานี้
ดร.พัทน์ ภัทรนุธาพร (พีพี) ระบุว่าทุกวันนี้คนมักพูดถึงปัญญาประดิษฐ์ในฐานะเครื่องมือสำหรับการเพิ่มผลผลิต หรือการทำให้คนทำงานได้เร็วขึ้น แต่แนวทางของ Future You คือการใช้ปัญญาประดิษฐ์เพื่อเติมเต็มความเป็นมนุษย์ ให้ผู้ใช้สามารถเห็นตัวเองได้มากขึ้น ขณะเดียวกันโมเดลปัญญาประดิษฐ์เหล่านี้ก็ต้องระวังการตอบด้านลบให้ดี ที่ผ่านมาทีมวิจัยก็ใส่ Guardrails ป้องกันไม่ให้ปัญญาประดิษฐ์ตอบสนองด้านลบ เช่น เมื่อผู้ใช้พูดคุยถึงการทำร้ายตัวเอง
แม้จะอยู่ในสถานะงานวิจัย แต่ตอนนี้มีผู้ใช้ Future You แล้วกว่า 52,000 คนจาก 190 ประเทศทั่วโลก โดยตัวงานวิจัยยังเก็บผลการใช้งานต่อเนื่อง พบว่าการที่ผู้ใช้ได้มีโอกาสคุยกับปัญญาประดิษฐ์ที่เป็นตัวเอง ช่วยให้ผู้ใช้มีความมั่นใจในการวางแผนชีวิตในอนาคต รวมถึงมีมุมมองที่ดีต่อชีวิต
และหลังจากนี้จะมีการศึกษาถึงการขยายรูปแบบการใช้งานต่อไป เช่น การสร้างตัวตนเพื่อให้คำปรึกษากับเยาวชนระดับมัธยมที่จะใช้ปัญญาประดิษฐ์เข้าไปเสริมสร้าง Growth Mindset ที่เสริมให้เด็กๆ มีความเชื่อในตัวเอง, การใช้เพื่อบำบัดสุขภาพจิต ที่ทุกวันนี้จิตแพทย์มีจำกัด และไม่สามารถพูดคุยกับคนไข้ได้ตลอดเวลา การใช้ปัญญาประดิษฐ์เปิดทางให้คนไข้ หรือผู้ใช้ที่ต้องการสามารถมีปัญญาประดิษฐ์พูดคุยได้ตลอดเวลาและระบบสามารถมอนิเตอร์ได้
ดร.มนต์ชัย เลิศสุทธิวงค์ (พี่กวง), Deputy Managing Director and Head of AI R&D, KBTG เล่าถึงแนวทางการใช้ Future You กับการศึกษาในไทย เช่น คนที่กำลังเรียนจบก็สามารถสร้างตัวตนที่ทำอาชีพต่างๆ และเปิดให้เราเข้าไปคุยว่าเส้นทางแต่ละเส้นทางนั้นมีความท้าทายอย่างไรบ้าง ทำให้เราสามารถพินิจพิเคราะห์ถึงทางเลือกต่างๆ
การทดลองล่าสุดของ Future You กับ Harvard Medical School ยังเห็นผลเบื้องต้นว่าผู้ป่วยก็เป็นกลุ่มหนึ่งที่น่าจะได้ประโยชน์จากแชตบอตที่เป็นที่ปรึกษา โดยคนกลุ่มนี้อาจจะมีความกังวลกับอนาคตการรักษาของตัวเองที่เหนื่อยล้ากับการรักษาโรคระยะยาว แต่การได้คุยกับตัวตนในอนาคตก็สามารถสร้างภาพเชิงบวกให้กับคนไข้เพื่อให้กำลังใจในการรักษาต่อไปได้ โดยแนวทางนี้ต่างจากแชตบอตอื่นๆ ที่มักสร้างแชตบอตผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ เพื่อตอบคำถามหรือข้อสงสัยต่างๆ กับผู้ใช้ แต่แทนที่จะพยายามสร้างผู้เชี่ยวชาญ Future You พยายามแสดงตัวว่าเป็นตัวผู้ใช้เอง และแทนที่จะพยายามตอบคำถามให้แม่นยำก็เปลี่ยนเป็นการแสดงให้ผู้ใช้แสดงถึงความเป็นไปได้
ดร.ทัดพงศ์ พงศ์ถาวรกมล, Managing Director, KBTG เล่าถึงปัญญาประดิษฐ์กับ KBTG ว่ามีตั้งแต่การสร้างแพลตฟอร์มภายในเพื่อให้สร้าง use-case ต่างๆ ได้ง่ายขึ้น ตั้งแต่การใช้งานหลังบ้านของธนาคารกสิกรไทย ขณะเดียวกันก็สร้าง ecosystem ที่มีความร่วมมือกับองค์กรต่างๆ โดยความร่วมมือกับ MIT Media Lab ครั้งนี้เป็นตัวอย่างหนึ่งที่ช่วยขับเคลื่อนประเด็นต่างๆ โดยศูนย์กลางของกลยุทธ์ครั้งนี้คือมนุษย์ (People) ที่เป็นศูนย์กลางของการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์
Future You ป็นการแสดงแนวทางที่ KBTG จะเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี โดยเริ่มต้นตั้งแต่งานสาธิตหรืองานวิจัยต่างๆ และนำไปสู่การพัฒนาเป็นสินค้าต่อไปในอนาคต และโดยรวมยังคงแนวทาง Human-First, AI-First ที่ปัญญาประดิษฐ์ของ KBTG จะสร้างขึ้นเพื่อเสริมศักยภาพของผู้ใช้ โดยกระทิงระบุถึงความเป็นไปได้ที่จะใช้ปัญญาประดิษฐ์รูปแบบนี้ไปใช้งานกับฐานลูกค้าของ KBank เช่น การสร้างปัญญาประดิษฐ์ที่จะช่วยเหลือผู้ใช้ในการจัดการการเงิน หรือให้กำลังใจที่จะอดออมเงิน แนวทางนี้ตรงกับแนวทางการพัฒนาสินค้าช่วยเหลือผู้ใช้ก่อนหน้านี้ เช่น MAKE by KBank ที่ช่วยบริหารจัดการเงินที่มีคนใช้นับล้านคน หรือแอป MeowJot ที่ช่วยให้คนไม่ใช้จ่ายเกินตัว
ในการประกาศทำเนียบ World Changing Ideas ครั้งนี้ Fast Company ยังเชิญกระทิง เข้าร่วม Impact Council ที่ประกอบไปด้วยกลุ่มผู้บริหารบริษัทชั้นนำทั่วโลก โดยกระทิงระบุว่าการมีส่วนร่วมกับกลุ่มต่างๆ เช่นก่อนหน้านี้ KBTG ก็ร่วมกลุ่ม AI Governance ของ World Economics Forum ก็เป็นโอกาสที่ KBTG จะนำเสนอแนวทางต่างๆ ทำให้สามารถเห็นจุดชายขอบที่สุดของแนวคิดต่างๆ และนำแนวคิดมาเสนอหน่วยงานระดับต่างๆ รวมถึงหน่วยงานรัฐบาล
ถ้าใครสนใจอยากคุยกับตัวเองในอนาคต ตอนนี้ Future You เปิดให้คนทั่วไปสามารถใช้งานได้แล้ว
sponsored Fri, 27/06/2025 - 10:30
Continue reading...
Body
ปัญญาประดิษฐ์ทุกวันนี้มักถูกมองในฐานะเครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานหรือใช้ปัญญาประดิษฐ์แทนที่มนุษย์ แต่ KBTG พลิกมุมมองการใช้ AI ว่า ปัญญาประดิษฐ์สามารถช่วยให้มนุษย์ "เบ่งบาน" (Human Flourish) ด้วยการใช้งานที่เหมาะสม โดยนำเสนอโครงการ Future You ที่ให้ผู้ใช้สามารถปรึกษาปัญหาและความกังวลของชีวิตกับตัวเองในวัย 60 ปี โดยล่าสุดโครงการนี้ได้ขึ้นทำเนียบ World Changing Ideas 2025 จากนิตยสาร Fast Company สื่อชั้นนำระดับโลก
กระทิง เรืองโรจน์ พูนผล Group Chairman KBTG เล่าถึงความร่วมมือระหว่าง KBTG และ MIT Media Lab มีเป้าหมายร่วมกันที่จะพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ที่ไม่ได้แค่เพิ่มผลผลิต แต่ทำให้มนุษย์เบ่งบาน (human flourish) โดยก่อนหน้าที่ Fast Company จะนำ Future You ขึ้นสู่ทำเนียบ World Changing Ideas 2025 ครั้งนี้ ก็มีสื่อและสถาบันต่างๆ ให้ความสนใจโครงการนี้มาก่อนแล้ว ส่วนสำคัญคือ ต้องการอาศัยจิตวิญญาณแบบเอเชียที่ใส่ใจต่อผู้คน และปัญญาประดิษฐ์ที่มีประโยชน์จะต้องสนับสนุนมนุษย์ ไม่ใช่มาแทนที่
Future You ทำงานอย่างไร?
ปัญญาประดิษฐ์ Future You เริ่มพัฒนามาตั้งแต่ปี 2021 และเปิดตัวในงาน MIT Media Lab Southeast Asian Forum ตั้งแต่ก่อน ChatGPT เสียอีก โดยแชตบอตอาศัยการเก็บข้อมูลเบื้องต้นจากผู้ใช้ และอาศัยการ Hallucinate ของปัญญาประดิษฐ์อย่างมีการควบคุม (Guided Hallucination) ภายในของ Future You เป็นโมเดลปัญญาประดิษฐ์หลายตัวประกอบเข้าด้วยกันเพื่อให้มีพฤติกรรมตรงตามที่ทีมงานพัฒนาต้องการ ให้สร้างความทรงจำจำลองที่สมมติเรื่องราวของผู้ใช้เองในอนาคตที่อายุถึง 60 ปี ซึ่งมักเป็นจุดเปลี่ยนชีวิตของคนจำนวนมากซึ่งมักเกษียณที่ช่วงเวลานี้
ดร.พัทน์ ภัทรนุธาพร (พีพี) ระบุว่าทุกวันนี้คนมักพูดถึงปัญญาประดิษฐ์ในฐานะเครื่องมือสำหรับการเพิ่มผลผลิต หรือการทำให้คนทำงานได้เร็วขึ้น แต่แนวทางของ Future You คือการใช้ปัญญาประดิษฐ์เพื่อเติมเต็มความเป็นมนุษย์ ให้ผู้ใช้สามารถเห็นตัวเองได้มากขึ้น ขณะเดียวกันโมเดลปัญญาประดิษฐ์เหล่านี้ก็ต้องระวังการตอบด้านลบให้ดี ที่ผ่านมาทีมวิจัยก็ใส่ Guardrails ป้องกันไม่ให้ปัญญาประดิษฐ์ตอบสนองด้านลบ เช่น เมื่อผู้ใช้พูดคุยถึงการทำร้ายตัวเอง
จากงานวิจัยสู่การใช้งานจริงและศักยภาพในอนาคต
แม้จะอยู่ในสถานะงานวิจัย แต่ตอนนี้มีผู้ใช้ Future You แล้วกว่า 52,000 คนจาก 190 ประเทศทั่วโลก โดยตัวงานวิจัยยังเก็บผลการใช้งานต่อเนื่อง พบว่าการที่ผู้ใช้ได้มีโอกาสคุยกับปัญญาประดิษฐ์ที่เป็นตัวเอง ช่วยให้ผู้ใช้มีความมั่นใจในการวางแผนชีวิตในอนาคต รวมถึงมีมุมมองที่ดีต่อชีวิต
และหลังจากนี้จะมีการศึกษาถึงการขยายรูปแบบการใช้งานต่อไป เช่น การสร้างตัวตนเพื่อให้คำปรึกษากับเยาวชนระดับมัธยมที่จะใช้ปัญญาประดิษฐ์เข้าไปเสริมสร้าง Growth Mindset ที่เสริมให้เด็กๆ มีความเชื่อในตัวเอง, การใช้เพื่อบำบัดสุขภาพจิต ที่ทุกวันนี้จิตแพทย์มีจำกัด และไม่สามารถพูดคุยกับคนไข้ได้ตลอดเวลา การใช้ปัญญาประดิษฐ์เปิดทางให้คนไข้ หรือผู้ใช้ที่ต้องการสามารถมีปัญญาประดิษฐ์พูดคุยได้ตลอดเวลาและระบบสามารถมอนิเตอร์ได้
ดร.มนต์ชัย เลิศสุทธิวงค์ (พี่กวง), Deputy Managing Director and Head of AI R&D, KBTG เล่าถึงแนวทางการใช้ Future You กับการศึกษาในไทย เช่น คนที่กำลังเรียนจบก็สามารถสร้างตัวตนที่ทำอาชีพต่างๆ และเปิดให้เราเข้าไปคุยว่าเส้นทางแต่ละเส้นทางนั้นมีความท้าทายอย่างไรบ้าง ทำให้เราสามารถพินิจพิเคราะห์ถึงทางเลือกต่างๆ
การทดลองล่าสุดของ Future You กับ Harvard Medical School ยังเห็นผลเบื้องต้นว่าผู้ป่วยก็เป็นกลุ่มหนึ่งที่น่าจะได้ประโยชน์จากแชตบอตที่เป็นที่ปรึกษา โดยคนกลุ่มนี้อาจจะมีความกังวลกับอนาคตการรักษาของตัวเองที่เหนื่อยล้ากับการรักษาโรคระยะยาว แต่การได้คุยกับตัวตนในอนาคตก็สามารถสร้างภาพเชิงบวกให้กับคนไข้เพื่อให้กำลังใจในการรักษาต่อไปได้ โดยแนวทางนี้ต่างจากแชตบอตอื่นๆ ที่มักสร้างแชตบอตผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ เพื่อตอบคำถามหรือข้อสงสัยต่างๆ กับผู้ใช้ แต่แทนที่จะพยายามสร้างผู้เชี่ยวชาญ Future You พยายามแสดงตัวว่าเป็นตัวผู้ใช้เอง และแทนที่จะพยายามตอบคำถามให้แม่นยำก็เปลี่ยนเป็นการแสดงให้ผู้ใช้แสดงถึงความเป็นไปได้
ดร.ทัดพงศ์ พงศ์ถาวรกมล, Managing Director, KBTG เล่าถึงปัญญาประดิษฐ์กับ KBTG ว่ามีตั้งแต่การสร้างแพลตฟอร์มภายในเพื่อให้สร้าง use-case ต่างๆ ได้ง่ายขึ้น ตั้งแต่การใช้งานหลังบ้านของธนาคารกสิกรไทย ขณะเดียวกันก็สร้าง ecosystem ที่มีความร่วมมือกับองค์กรต่างๆ โดยความร่วมมือกับ MIT Media Lab ครั้งนี้เป็นตัวอย่างหนึ่งที่ช่วยขับเคลื่อนประเด็นต่างๆ โดยศูนย์กลางของกลยุทธ์ครั้งนี้คือมนุษย์ (People) ที่เป็นศูนย์กลางของการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์
Future You ป็นการแสดงแนวทางที่ KBTG จะเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี โดยเริ่มต้นตั้งแต่งานสาธิตหรืองานวิจัยต่างๆ และนำไปสู่การพัฒนาเป็นสินค้าต่อไปในอนาคต และโดยรวมยังคงแนวทาง Human-First, AI-First ที่ปัญญาประดิษฐ์ของ KBTG จะสร้างขึ้นเพื่อเสริมศักยภาพของผู้ใช้ โดยกระทิงระบุถึงความเป็นไปได้ที่จะใช้ปัญญาประดิษฐ์รูปแบบนี้ไปใช้งานกับฐานลูกค้าของ KBank เช่น การสร้างปัญญาประดิษฐ์ที่จะช่วยเหลือผู้ใช้ในการจัดการการเงิน หรือให้กำลังใจที่จะอดออมเงิน แนวทางนี้ตรงกับแนวทางการพัฒนาสินค้าช่วยเหลือผู้ใช้ก่อนหน้านี้ เช่น MAKE by KBank ที่ช่วยบริหารจัดการเงินที่มีคนใช้นับล้านคน หรือแอป MeowJot ที่ช่วยให้คนไม่ใช้จ่ายเกินตัว
ในการประกาศทำเนียบ World Changing Ideas ครั้งนี้ Fast Company ยังเชิญกระทิง เข้าร่วม Impact Council ที่ประกอบไปด้วยกลุ่มผู้บริหารบริษัทชั้นนำทั่วโลก โดยกระทิงระบุว่าการมีส่วนร่วมกับกลุ่มต่างๆ เช่นก่อนหน้านี้ KBTG ก็ร่วมกลุ่ม AI Governance ของ World Economics Forum ก็เป็นโอกาสที่ KBTG จะนำเสนอแนวทางต่างๆ ทำให้สามารถเห็นจุดชายขอบที่สุดของแนวคิดต่างๆ และนำแนวคิดมาเสนอหน่วยงานระดับต่างๆ รวมถึงหน่วยงานรัฐบาล
ถ้าใครสนใจอยากคุยกับตัวเองในอนาคต ตอนนี้ Future You เปิดให้คนทั่วไปสามารถใช้งานได้แล้ว
sponsored Fri, 27/06/2025 - 10:30
Continue reading...
