Meta จับมือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ป้องกันการโกงออนไลน์ ตัดวงจรภัยไซเบอร์ตั้งแต่ต้นทาง
Body
Meta ประเทศไทย ร่วมมือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติโดยกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) รับมือภัยไซเบอร์ที่ซับซ้อนขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะกลโกงที่แฝงตัวบน Facebook และ Instagram หวังตัดตอนตั้งแต่ต้นทาง พร้อมเปิดเผยแนวทาง และเทคโนโลยีที่ใช้ทั่วโลก
ยิ่งยศ ลีชัยอนันต์ หัวหน้าฝ่ายนโยบายสาธารณะของ Meta ประเทศไทย บอกว่า ในยุคที่มิจฉาชีพปรับเปลี่ยนวิธีการตลอดเวลา Meta ได้พัฒนาวิธีป้องกันให้ไวกว่าเดิม ผ่านแนวทางที่ Meta ใช้อยู่ตอนนี้ 3 เรื่องหลัก ๆ
สำหรับกลโกงพวกนี้มีขั้นตอนชัดเจน แบ่งได้เป็น 5 ขั้น ซึ่ง Meta พยายามจะหยุดกลโกงให้ได้ตั้งแต่ขั้นที่ 2–3 เพื่อไม่ให้เหยื่อต้องไปถึงขั้นที่ 4:
Meta ลงทุนกว่า 30,000 ล้านดอลลาร์ฯ ในการพัฒนาทีมและเทคโนโลยี เพื่อสร้างระบบความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพ และมีทีมที่ดูแลเรื่องนี้กว่า 40,000 คนทั่วโลก โดยครึ่งหนึ่งทำหน้าตรวจสอบเนื้อหาโดยตรง
ประเทศไทยเป็นกลุ่มแรกที่ได้ลองใช้ระบบใหม่ ๆ
ในประเทศไทย Meta เริ่มทดสอบหลาย ๆ ฟีเจอร์ที่เพิ่มความปลอดภัย เช่น ระบบจดจำใบหน้าเพื่อกู้บัญชีที่โดนแฮ็ก การแจ้งเตือนเมื่อมีการล็อกอินจากเครื่องที่ไม่คุ้นเคย ระบบขออนุมัติรับข้อความจากคนแปลกหน้าใน Instagram และระบบแจ้งเตือนกิจกรรมต้องสงสัยอัตโนมัติ ซึ่งไทยเป็นหนึ่งในกลุ่มประเทศแรก ๆ ที่ได้ใช้ระบบนี้
ส่วนภาคธุรกิจ Meta พัฒนาระบบขึ้นเพื่อช่วยทั้งผู้ใช้ทั่วไปและภาคธุรกิจ เช่น ระบบ Brand Rights Protection สำหรับจัดการบัญชีที่ปลอมแบรนด์ หรือระบบแจ้งเตือนที่ให้ผู้ใช้รายงานเนื้อหาปลอมได้ง่ายขึ้น
โดยในไตรมาส 4/2024 Meta จัดการบัญชีปลอมทั่วโลกไปกว่า 1,400 ล้านบัญชี ซึ่ง 99.9% ถูกลบโดยอัตโนมัติภายในไม่กี่นาทีหลังจากถูกสร้างขึ้น รวมทั้งลบเพจและบัญชีที่มีส่วนร่วมกับการฉ้อโกงอีก 116,000 รายการ
นอกจากนี้ Meta ร่วมมือกับกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) เพื่อแชร์ข้อมูล เทคนิค และความรู้ด้านความมั่นคงไซเบอร์ร่วมกัน เป้าหมายคือรับมือกับภัยที่ซับซ้อนขึ้น และเคลื่อนไหวได้รวดเร็วกว่าเดิม
ยิ่งยศ ย้ำว่า “ภัยไซเบอร์ไม่ใช่เรื่องของแพลตฟอร์มฝ่ายเดียวหรือหน้าที่ของภาครัฐฝ่ายเดียว มันต้องช่วยกันทุกฝ่าย ถ้าป้องกันได้ตั้งแต่ต้น คนก็ไม่ต้องตกเป็นเหยื่อ”
ซื้อของใน Facebook – Romance Scam ยังเป็นภัยอันดับต้น ๆ
ด้าน พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้ข้อมูลว่า แม้ความร่วมมือจะทำให้คดีภัยไซเบอร์ลดลงกว่า 30% แล้ว แต่การหลอกขายของผ่าน Facebook ก็ยังเป็นปัญหาใหญ่ที่เจอบ่อยสุด โดยในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2025 ความเสียหายจากคดีออนไลน์รวมแล้วกว่า 7,600 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังมี Romance Scam หรือการหลอกเหยื่อด้วยความรักเพื่อให้โอนเงินให้ ที่พบอยู่มากในไทย ซึ่ง Meta ตรวจเจอและลบได้มากถึง 408,000 บัญชีทั่วโลก
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ย้ำว่า “คดีที่ไม่เกิด คือคดีที่ดีที่สุด เพราะประชาชนไม่ต้องเสียเงิน และตำรวจไม่ต้องตามจับ แต่ถ้าเกิดแล้ว เราต้องรีบตามจับให้เร็วที่สุด และสกัดเส้นทางการเงินให้ทันก่อนที่เงินจะหายไป”
ที่มา: Meta ประเทศไทย และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
boompw Fri, 05/16/2025 - 16:49
Continue reading...
Body
Meta ประเทศไทย ร่วมมือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติโดยกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) รับมือภัยไซเบอร์ที่ซับซ้อนขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะกลโกงที่แฝงตัวบน Facebook และ Instagram หวังตัดตอนตั้งแต่ต้นทาง พร้อมเปิดเผยแนวทาง และเทคโนโลยีที่ใช้ทั่วโลก
ยิ่งยศ ลีชัยอนันต์ หัวหน้าฝ่ายนโยบายสาธารณะของ Meta ประเทศไทย บอกว่า ในยุคที่มิจฉาชีพปรับเปลี่ยนวิธีการตลอดเวลา Meta ได้พัฒนาวิธีป้องกันให้ไวกว่าเดิม ผ่านแนวทางที่ Meta ใช้อยู่ตอนนี้ 3 เรื่องหลัก ๆ
- สกัดยับยั้งมิจฉาชีพ: แม้ Meta จะไม่มีสิทธิ์สืบสวนหรือจับกุม แต่มีข้อมูลและเครื่องมือที่ช่วยคัดกรองพฤติกรรมต้องสงสัย สนับสนุนภาครัฐได้
- ให้ความรู้กับผู้ใช้: Meta ทำงานร่วมกับสื่อ แบงก์ ค่ายมือถือ และหน่วยงานรัฐ เพื่อให้คนรู้เท่าทันกลโกงใหม่ ๆ จะได้ตั้งรับทัน
- ขัดขวางการดำเนินการของคนร้าย: ใช้ AI ลบบัญชีปลอม แจ้งเตือนพฤติกรรมต้องสงสัย และทดสอบฟีเจอร์รักษาความปลอดภัยใหม่ ๆ
สำหรับกลโกงพวกนี้มีขั้นตอนชัดเจน แบ่งได้เป็น 5 ขั้น ซึ่ง Meta พยายามจะหยุดกลโกงให้ได้ตั้งแต่ขั้นที่ 2–3 เพื่อไม่ให้เหยื่อต้องไปถึงขั้นที่ 4:
- ตั้งโครงสร้าง: ค้ามนุษย์ แรงงาน ซิมบล็อก ตั้งศูนย์ในพื้นที่ที่บังคับใช้กฎหมายยาก
- เตรียมการ: เตรียมบัญชีม้า ซิมปลอม แฮกบัญชีผู้อื่น
- เข้าถึงเหยื่อ: ใช้จิตวิทยาสร้างความไว้วางใจ
- ดำเนินการ: ทำธุรกรรมผิดกฎหมาย เช่น โอนเงิน
- ทำความสะอาด: ลบบัญชี ฟอกเงิน ปกปิดร่องรอย
Meta ลงทุนกว่า 30,000 ล้านดอลลาร์ฯ ในการพัฒนาทีมและเทคโนโลยี เพื่อสร้างระบบความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพ และมีทีมที่ดูแลเรื่องนี้กว่า 40,000 คนทั่วโลก โดยครึ่งหนึ่งทำหน้าตรวจสอบเนื้อหาโดยตรง
ประเทศไทยเป็นกลุ่มแรกที่ได้ลองใช้ระบบใหม่ ๆ
ในประเทศไทย Meta เริ่มทดสอบหลาย ๆ ฟีเจอร์ที่เพิ่มความปลอดภัย เช่น ระบบจดจำใบหน้าเพื่อกู้บัญชีที่โดนแฮ็ก การแจ้งเตือนเมื่อมีการล็อกอินจากเครื่องที่ไม่คุ้นเคย ระบบขออนุมัติรับข้อความจากคนแปลกหน้าใน Instagram และระบบแจ้งเตือนกิจกรรมต้องสงสัยอัตโนมัติ ซึ่งไทยเป็นหนึ่งในกลุ่มประเทศแรก ๆ ที่ได้ใช้ระบบนี้
ส่วนภาคธุรกิจ Meta พัฒนาระบบขึ้นเพื่อช่วยทั้งผู้ใช้ทั่วไปและภาคธุรกิจ เช่น ระบบ Brand Rights Protection สำหรับจัดการบัญชีที่ปลอมแบรนด์ หรือระบบแจ้งเตือนที่ให้ผู้ใช้รายงานเนื้อหาปลอมได้ง่ายขึ้น
โดยในไตรมาส 4/2024 Meta จัดการบัญชีปลอมทั่วโลกไปกว่า 1,400 ล้านบัญชี ซึ่ง 99.9% ถูกลบโดยอัตโนมัติภายในไม่กี่นาทีหลังจากถูกสร้างขึ้น รวมทั้งลบเพจและบัญชีที่มีส่วนร่วมกับการฉ้อโกงอีก 116,000 รายการ
นอกจากนี้ Meta ร่วมมือกับกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) เพื่อแชร์ข้อมูล เทคนิค และความรู้ด้านความมั่นคงไซเบอร์ร่วมกัน เป้าหมายคือรับมือกับภัยที่ซับซ้อนขึ้น และเคลื่อนไหวได้รวดเร็วกว่าเดิม
ยิ่งยศ ย้ำว่า “ภัยไซเบอร์ไม่ใช่เรื่องของแพลตฟอร์มฝ่ายเดียวหรือหน้าที่ของภาครัฐฝ่ายเดียว มันต้องช่วยกันทุกฝ่าย ถ้าป้องกันได้ตั้งแต่ต้น คนก็ไม่ต้องตกเป็นเหยื่อ”
ซื้อของใน Facebook – Romance Scam ยังเป็นภัยอันดับต้น ๆ
ด้าน พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้ข้อมูลว่า แม้ความร่วมมือจะทำให้คดีภัยไซเบอร์ลดลงกว่า 30% แล้ว แต่การหลอกขายของผ่าน Facebook ก็ยังเป็นปัญหาใหญ่ที่เจอบ่อยสุด โดยในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2025 ความเสียหายจากคดีออนไลน์รวมแล้วกว่า 7,600 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังมี Romance Scam หรือการหลอกเหยื่อด้วยความรักเพื่อให้โอนเงินให้ ที่พบอยู่มากในไทย ซึ่ง Meta ตรวจเจอและลบได้มากถึง 408,000 บัญชีทั่วโลก
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ย้ำว่า “คดีที่ไม่เกิด คือคดีที่ดีที่สุด เพราะประชาชนไม่ต้องเสียเงิน และตำรวจไม่ต้องตามจับ แต่ถ้าเกิดแล้ว เราต้องรีบตามจับให้เร็วที่สุด และสกัดเส้นทางการเงินให้ทันก่อนที่เงินจะหายไป”
ที่มา: Meta ประเทศไทย และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
boompw Fri, 05/16/2025 - 16:49
Continue reading...