Mark Gurman แห่ง Bloomberg รายงานข่าวแอปเปิลในจดหมายข่าวประจำสัปดาห์ Power On โดยคราวนี้เขาพูดถึงปัญหาเฮดเซต Apple Vision Pro ที่อาจมีแอปภายนอกจากนักพัฒนาไม่มากพอ ซึ่งมาจากหลายสาเหตุรวมกัน
โดยสัปดาห์ที่ผ่านมาหลังแอปเปิลเปิดให้สั่งจอง Vision Pro ก็มีแอปรายใหญ่เช่น Netflix, YouTube และ Spotify ที่ส่งสัญญาณว่าจะไม่มีแอปเวอร์ชัน Vision Pro ออกมา และบอกให้ใช้งานผ่าน Safari บน Vision Pro แทน ถึงแม้ในฝั่งนักพัฒนาจะสามารถกดส่งแอป iPad มาใช้บนสโตร์ Vision Pro ได้เลย แต่ผู้พัฒนาเหล่านี้ก็เลือก opt-out
Gurman บอกว่าสาเหตุนั้นมีหลายอย่าง ตั้งแต่ผู้พัฒนามีต้นทุนทำแอปที่สูงขึ้น โดยเฉพาะหากต้องแก้ไขแอปสำหรับ Vision Pro (native) แต่ก็น่าสนใจว่าทำไมพวกเขาไม่เลือกส่งแอป iPad ไปเลย, นอกจากนี้ผู้พัฒนาบางราย ก็มีประเด็นขัดแย้งกับแอปเปิลเรื่องค่าธรรมเนียมสโตร์ แม้ล่าสุดแอปเปิลให้จ่ายเงินภายนอกได้ แต่ค่าธรรมเนียมก็ยังสูงถึง 27%
ปัญหาถัดมาจากฝั่งผู้พัฒนาเกม หลายรายมีเกมที่ออกแบบบนเฮดเซต VR ได้ดี ซึ่งต้องใช้คอนโทรลเลอร์มือที่ Vision Pro ไม่รองรับ ถ้าจะเปลี่ยนมาใช้การควบคุมด้วยสายตาบวกมือที่เป็นแนวทาง Spatial Computing ของ Vision Pro ผู้พัฒนาเกมก็ยังต้องการทดสอบมากกว่านี้ก่อนว่ามันให้ประสบการณ์ที่ดีพอ
สุดท้ายเป็นผลงานอดีต เนื่องจากระบบแอปสโตร์ช่วงหลังของแอปเปิล ไม่ค่อยประสบความสำเร็จนัก ตั้งแต่สโตร์ของ Apple Watch, Apple TV หรือสโตร์ iMessage ทำให้ผู้พัฒนาที่จากเดิมเร่งทำแอปลงแพลตฟอร์ม จึงเลือกรอดูไปก่อนแทน
ที่น่าสนใจคือแม้แต่แอปเปิลเอง ก็ยังมีแอปพื้นฐานจำนวนหนึ่งที่ไม่ได้พัฒนาใหม่เป็นเวอร์ชันสำหรับ Vision Pro แต่พอร์ตแอปจาก iPad มาเลย เช่น Podcasts, News, Calendar หรือ Reminders
ที่มา: Bloomberg
Topics:
Apple Vision Pro
visionOS
Apple
Developer
App Store
อ่านต่อ...
โดยสัปดาห์ที่ผ่านมาหลังแอปเปิลเปิดให้สั่งจอง Vision Pro ก็มีแอปรายใหญ่เช่น Netflix, YouTube และ Spotify ที่ส่งสัญญาณว่าจะไม่มีแอปเวอร์ชัน Vision Pro ออกมา และบอกให้ใช้งานผ่าน Safari บน Vision Pro แทน ถึงแม้ในฝั่งนักพัฒนาจะสามารถกดส่งแอป iPad มาใช้บนสโตร์ Vision Pro ได้เลย แต่ผู้พัฒนาเหล่านี้ก็เลือก opt-out
Gurman บอกว่าสาเหตุนั้นมีหลายอย่าง ตั้งแต่ผู้พัฒนามีต้นทุนทำแอปที่สูงขึ้น โดยเฉพาะหากต้องแก้ไขแอปสำหรับ Vision Pro (native) แต่ก็น่าสนใจว่าทำไมพวกเขาไม่เลือกส่งแอป iPad ไปเลย, นอกจากนี้ผู้พัฒนาบางราย ก็มีประเด็นขัดแย้งกับแอปเปิลเรื่องค่าธรรมเนียมสโตร์ แม้ล่าสุดแอปเปิลให้จ่ายเงินภายนอกได้ แต่ค่าธรรมเนียมก็ยังสูงถึง 27%
ปัญหาถัดมาจากฝั่งผู้พัฒนาเกม หลายรายมีเกมที่ออกแบบบนเฮดเซต VR ได้ดี ซึ่งต้องใช้คอนโทรลเลอร์มือที่ Vision Pro ไม่รองรับ ถ้าจะเปลี่ยนมาใช้การควบคุมด้วยสายตาบวกมือที่เป็นแนวทาง Spatial Computing ของ Vision Pro ผู้พัฒนาเกมก็ยังต้องการทดสอบมากกว่านี้ก่อนว่ามันให้ประสบการณ์ที่ดีพอ
สุดท้ายเป็นผลงานอดีต เนื่องจากระบบแอปสโตร์ช่วงหลังของแอปเปิล ไม่ค่อยประสบความสำเร็จนัก ตั้งแต่สโตร์ของ Apple Watch, Apple TV หรือสโตร์ iMessage ทำให้ผู้พัฒนาที่จากเดิมเร่งทำแอปลงแพลตฟอร์ม จึงเลือกรอดูไปก่อนแทน
ที่น่าสนใจคือแม้แต่แอปเปิลเอง ก็ยังมีแอปพื้นฐานจำนวนหนึ่งที่ไม่ได้พัฒนาใหม่เป็นเวอร์ชันสำหรับ Vision Pro แต่พอร์ตแอปจาก iPad มาเลย เช่น Podcasts, News, Calendar หรือ Reminders
ที่มา: Bloomberg
Topics:
Apple Vision Pro
visionOS
Apple
Developer
App Store
อ่านต่อ...
