Remedy และ Tencent ตัดสินใจยกเลิกการสร้างเกม Codename Kestrel ได้เผยรายละเอียดว่ามีทีมพัฒนามีขนาดเล็ก และเกมยังอยู่ในช่วงต้นของการวางคอนเซ็ปเท่านั้น โดย Remedy เป็นผู้พัฒนาเกม และออกทุนสร้างร่วมกับ Tencent และให้ Tencent เป็นผู้จัดจำหน่าย (เหมือนกับ Alan Wake 2 ที่มี Epic Games Publishing เป็นผู้จัดจำหน่าย)
การยกเลิกการสร้างเกมดังกล่าวทำให้ Remedy กลับมาโฟกัสที่เกมอื่น ๆ ที่สตูดิโอกำลังพัฒนาอยู่ได้ดียิ่งขึ้น โดยจะทีมงานที่พัฒนา Kestrel จะถูกย้ายไปยังโปรเจ็กต์เกมอื่น ๆ ของ Remedy ซึ่งทำให้จำนวนนักพัฒนาใหม่ ๆ ที่สตูดิโอประกาศรับสมัครจะมีความต้องการลดลง
Tero Virtala ซีอีโอของ Remedy กล่าวว่าตัดสินใจยกเลิกการสร้างเพื่อผลประโยชน์ของ Remedy ในวงกว้าง พร้อมชมทีมสร้าง Codename Kestrel ว่าทำงานได้ดีและให้การเรียนรู้ที่มีคุณค่าแก่สตูดิโอ และขอบคุณ Tencent ที่ร่วมมือ และสนับสนุนพวกเขามาจนถึงตอนนี้
Codename Kestrel ก่อนหน้านี้ใช้ชื่อว่า Codenamed Vanguard ถูกวางให้เป็นเกมแนว co-operative PvE ใช้เอนจิน Unreal และจะเปิดให้เล่นแบบ free-to-play ทั้งบนพีซีและคอนโซล ประกาศเริ่มพัฒนาเมื่อปลายปี 2021 และถูกเปลี่ยนชื่อเป็น Kestrel และเริ่มพัฒนาใหม่ทั้งหมดเมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2023 ที่ผ่านมา
ภาพประกอบจากเกม Control
ที่มา - Remedy
Topics:
Remedy Entertainment
Games
อ่านต่อ...
การยกเลิกการสร้างเกมดังกล่าวทำให้ Remedy กลับมาโฟกัสที่เกมอื่น ๆ ที่สตูดิโอกำลังพัฒนาอยู่ได้ดียิ่งขึ้น โดยจะทีมงานที่พัฒนา Kestrel จะถูกย้ายไปยังโปรเจ็กต์เกมอื่น ๆ ของ Remedy ซึ่งทำให้จำนวนนักพัฒนาใหม่ ๆ ที่สตูดิโอประกาศรับสมัครจะมีความต้องการลดลง
Tero Virtala ซีอีโอของ Remedy กล่าวว่าตัดสินใจยกเลิกการสร้างเพื่อผลประโยชน์ของ Remedy ในวงกว้าง พร้อมชมทีมสร้าง Codename Kestrel ว่าทำงานได้ดีและให้การเรียนรู้ที่มีคุณค่าแก่สตูดิโอ และขอบคุณ Tencent ที่ร่วมมือ และสนับสนุนพวกเขามาจนถึงตอนนี้
Codename Kestrel ก่อนหน้านี้ใช้ชื่อว่า Codenamed Vanguard ถูกวางให้เป็นเกมแนว co-operative PvE ใช้เอนจิน Unreal และจะเปิดให้เล่นแบบ free-to-play ทั้งบนพีซีและคอนโซล ประกาศเริ่มพัฒนาเมื่อปลายปี 2021 และถูกเปลี่ยนชื่อเป็น Kestrel และเริ่มพัฒนาใหม่ทั้งหมดเมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2023 ที่ผ่านมา
ภาพประกอบจากเกม Control
ที่มา - Remedy
Topics:
Remedy Entertainment
Games
อ่านต่อ...
